การสั่งงานพิมพ์สำเร็จแบบชิ้นเดียวในโลกที่คุณออกแบบเองได้ทางออนไลน์เพียงปลายนิ้วนั้นดูง่ายดาย แต่มักจะติดขัดกับปัญหาต้นฉบับงานอาร์ตเวิร์กและข้อกำหนดจำเพาะบางอย่าง โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าไม่ได้เป็นผู้สร้างไฟล์งานขึ้นมาเอง เพื่อการสั่งซื้อสินค้าที่ถูกต้องกับ Ontimeprint สิ่งสำคัญคือต้องทราบขนาดของไฟล์อาร์ตเวิร์กของคุณให้ชัดเจน

มาดูตัวอย่างกันให้เห็นภาพชัดๆ  คุณเพิ่งได้รับไฟล์งานออกแบบสติ๊กเกอร์ใหม่ในรูปแบบไฟล์ PDF และกำลังจะกดสั่งพิมพ์สินค้าอยู่แล้วเชียว แต่ผู้ออกแบบกลับไม่ได้บอกขนาดที่แน่ชัดของชิ้นงานนี้ไว้ให้ ดังนั้น ขั้นตอนการสั่งซื้อจะเปรียบเสมือนคุณกำลังเล่นเกมเสี่ยงโชค เพราะคุณไม่ทราบขนาดงานพิมพ์ และหากเลือกรูปแบบที่ไม่ถูกต้อง คำสั่งซื้อก็อาจล่าช้าซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้น การรู้ขนาดและเข้าใจต้นฉบับอาร์ตเวิร์คจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพื่อทำให้เป๊ะตั้งแต่ขั้นตอนแรกและจะได้ลุยกันต่อ

โปรแกรม Adobe Acrobat Reader

หนึ่งในวิธีการตรวจสอบขนาดของอาร์ตเวิร์กที่บันทึกในรูปแบบ pdf คือการดาวน์โหลดโปรแกรม Adobe Acrobat Reader ซึ่งรวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อดาวน์โหลดแล้ว เพียงเปิด pdf ของคุณเข้าไปที่ Adobe Acrobat Reader กด Ctrl+D หรือ File > Properties (Document Properties) ภายในส่วนข้อมูลคุณจะพบ 'ขนาดหน้า' ดังนั้นถ้าคุณต้องการเลือกขนาดเป็นหน่วยแทนขนาดที่เป็นนิ้วให้แปลงได้ดังนี้ (1 นิ้ว -> 2.54 ซม.)

โปรแกรมอ่านไฟล์ มาตรฐาน PDF อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ที่คุณมี สำหรับผู้ที่ใช้ Foxit PhantomPDF (หากคุณไม่มี คุณจะดาวน์โหลดรุ่นทดลองใช้ฟรีทางออนไลน์ได้ง่ายๆ) จะใช้ขั้นตอนที่เทียบเท่ากับในโปรแกรม Adobe Acrobat Reader เพียงเปิดไฟล์ของคุณจากนั้นกดเลือกคุณสมบัติของไฟล์ด้วยตนเอง หรือกด Ctrl+D

ข้อระวัง!

ก่อนที่คุณกดคอนเฟิร์มการสั่งซื้อ ให้ตรวจสอบอาร์ตเวิร์คของคุณว่ามีมีระยะตัดตกและระยะตัดขอบตามที่กำหนดไว้พอดีไหม ไฟล์อาร์ตเวิร์คที่เผื่อระยะตัดตกไว้พอดีแล้วจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยเสมอ (ความกว้าง +0.6 ซม. และความสูง +0.6 ซม.) นี่ถือว่าปกติ!  ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการนามบัตร ขนาดขนาด 9x5 ซม. ไฟล์อาร์ตเวิร์คของคุณควรกำหนดเป็น 9.6x5.6 ซม. ซึ่งรวมถึงขอบกระดาษทุกด้าน 0.3 ซม. ในทำนองเดียวกันหากคุณสังเกตเห็นว่าไฟล์อาร์ตเวิร์คของนามบัตรมีขนาด 9.6x5.6 ซม. หมายความว่าคุณต้องการสั่งซื้อนามบัตรขนาด  9x5 ซม.นั่นเอง 

ในการตรวจสอบว่าไฟล์งานพิมพ์ของคุณมีระยะขอบที่พอดีหรือไม่ คุณจะต้องถามนักออกแบบเสมอหรือในกรณีที่คุณออกแบบงานพิมพ์ด้วยตัวเอง...คำนวณเตรียมไว้เลยว่าต้องบวกเผื่อเพิ่มไปอีก 0.3 ซม. ในทุกด้านของงานพิมพ์ของคุณ


ทิปส์พิเศษ:

หากคุณสังเกตเห็นว่าขนาดไฟล์งานพิมพ์สอดคล้องกับรูปแบบมาตรฐานของสินค้าเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งรูปแบบแล้ว บวกกับความกว้างและความสูงขนาด 0.6 ซม. (ด้านละ 0.3 ซม.) ทั้งหมดนี้อาจหมายความว่าคุณได้เผื่อระยะตัดตกไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการถามนักออกแบบงานพิมพ์โดยตรงจะชัวร์ที่สุด 

ระยะตัดตกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคุณคงไม่อยากเห็นสติ๊กเกอร์ที่พิมพ์เสร็จแล้วออกมารูปแหว่งหรือข้อมูลสำคัญถูกตัดออกไปตามขอบ เพียงแค่คุณพลาดขั้นตอนการกำหนดระยะตัดขอบง่ายๆนี้ไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องความสำคัญของการกำหนดระยะตัดตก(Bleed) และ ระยะตัดขอบ (Margin) ต่องานพิมพ์คืออะไร สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่

เอาล่ะ เราได้อธิบายครบทุกขั้นตอนแล้ว ขอให้คุณพิมพ์งานอย่างมีความสุขไปกับเรา Ontimeprint